วัดสวย วัดพระธาตุเขาน้อย ใครที่เคยสัมผัสน่านจะต้องประทับใจกับบรรยากาศเมืองเล็กๆ แต่มีมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาจนแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง วันนี้เราจะพาไปเที่ยวน่านและชมทะเลหมอกกัน ณ วัดพระธาตุเขาน้อย จุดชมวิวที่สวยที่สุดของ จ.น่าน พร้อมไหว้ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองน่าน วัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง จึงเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูมิทัศน์โดยรอบของเมืองน่านได้อย่างสวยงาม ปัจจุบันบนแท่นชมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรบนฐานดอกบัว สูง 9 เมตร มีเกศาของพระพุทธเจ้าทำด้วย ทองคำหนัก 27 บาท
วัดสวย วัดพระธาตุเขาน้อย จังหวัดน่าน
วัดสวย วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองน่าน บนยอดเขา ดอยเขาน้อย พระธาตุดอยตั้งอยู่บนยอดเขาน้อย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 240 เมตร เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ความงดงามของศิลปะพม่าผสมล้านนา เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยนั้น พระธาตุแช่แห้ง อีกด้วย ภายในมี เศษเกศาของพระพุทธเจ้า จึงเป็นศาลเจ้าที่สำคัญและเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนมาสักการะเป็นประจำ
วัดพระธาตุเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดราษฎร์ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อยด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองน่าน พระธาตุเจดีย์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2030 ในสมัยเจ้าปู่แข้ง อิฐและปูนเป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่าง ศิลปะพม่าและล้านนา ภายในมีเศษเส้นเกศาของพระพุทธเจ้าซึ่งซ่อมแซมแล้ว โดยช่างชาวพม่าในสมัย พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ระหว่าง พ.ศ. 2449 ถึง พ.ศ. 2454 และวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยนี้มีวัดพระธาตุเขาน้อยเป็นปูชนียสถานที่สำคัญและเป็นโบราณสถานอีกแห่งของจังหวัดน่านซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุไล่เลี่ยกับพระธาตุแช่แห้งอยู่บนดอยเบ้าน้อยสูงประมาณ 240 เมตร ระดับน้ำทะเล หน้าวัดมีพญานาค 303 ขั้น มีบันไดทางขึ้น
จากวัดพระธาตุเขาน้อยสามารถชมทิวทัศน์เมืองน่านได้โดยรอบ ปัจจุบันพื้นที่ชมเก็บรักษา พระพุทธรูปอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ทำด้วยทองคำหนัก 27 บาท สร้างในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ด้านบนสุด พระเศียรบนฐานบัวสูง 9 เมตร
ประวัติวัดพระธาตุเขาน้อย
“พระธาตุเขาน้อย” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1487 หรือประมาณ 500 ปีที่แล้ว ( อยุธยาตอนต้น ) ในสมัยเจ้าปู่แคง มีอายุไล่เลี่ยกับวัดพระธาตุแช่แห้ง ก่อตั้งโดยสมาพันธ์รองของพญาภูเข็ง เจ้าเมืองน่าน ต่อมาได้รับการบูรณะในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช หรือประมาณ พ.ศ. 2449-2452 (รัชกาลที่ 5) ได้มีการสร้างวัดขึ้นในสมัยนี้ด้วย แต่เจ้านายที่มาบูรณะเป็นชาวพม่าชื่อ “หม่องหญิง” จึงทำให้เจดีย์หรือวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาผสมพม่า ภายในองค์พระธาตุเจดีย์เชื่อว่าเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า
มีตำนานเล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับบนภูเขาลูกนี้ พระพุทธเจ้าได้ประทานขนนกให้ 2 เส้น เพราะรู้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางของศาสนา และพระพุทธเจ้าก็ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกที่น่านตั้งอยู่ในปัจจุบัน แล้วตรัสว่า : “แล้วที่แห่งนี้จะเป็นเมืองที่พระศาสนาเจริญรุ่งเรือง คือ นันทบุรี” จะเป็นที่ตั้งเมืองชื่อว่า และเท่าที่ผมจะรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ได้ถึง 5,000 ปี ก็มีความเป็นไปได้ ไม่เชื่อ มองลงมาที่น่านจะเห็นวัดมากมาย
ถ้าดู กรมการศาสนา มีแค่ 102 แห่ง วัดในอำเภอเมืองน่าน(ไม่รู้อยู่ที่ไหน) หลายวัดเลย เพราะหากดูตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้วพบว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยเสด็จมาบริเวณนี้ ไม่เพียงแต่พระนันทาเท่านั้น แต่ไม่มีหลักฐานในประเทศไทยว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประเทศนี้ ในดินแดนน่านมีอารยธรรมที่เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 1700 นำโดยเจ้าพญาภูคา ตรงกับสมัยการค้าโลกเฟื่องฟู (สุโขทัย หริภุญไชย เวียงกุมกาม ก็สร้างแบบนี้) หรือภาคเหนือเป็นเพียงชนเผ่ากลุ่มเล็กๆ
ตามประวัติกล่าวว่าพระธาตุเขาน้อยแข็งสร้างขึ้นใน สมัยปู่เจ้าเมืองน่าน ประมาณพุทธ ศตวรรษที่ 20 ส่วนที่เหลือเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งหมด เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและล้านนา โดยช่างชาวพม่าในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ระหว่าง พ.ศ. 2449-2454 จนกระทั่งได้รับการบูรณะครั้งใหญ่
อีกทั้งได้มากราบพระธาตุที่น่านหามาแทนไม่ได้ พระพุทธมหาอุตตมะมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ รัชกาลที่ 9 เหนือเกศาทองคำหนัก 27 บาท บน ฐานบัวสูง 9 เมตร
จุดชมวิวทะเลหมอก
วัดสวย วัดพระธาตุเขาน้อย และในบริเวณลานนมัสการพระพุทธมหาอุตตมะมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่านยังเป็นจุดชมทะเลหมอกในยามเช้าที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกปกคลุมทั่วบริเวณได้อย่างสวยงามจริงๆ ถึงจะไม่มีหมอกแต่ก็เป็นวิวเมืองน่านที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นวิวเมืองน่านได้ทั้งหมด มีความสวยงามและยิ่งใหญ่มากโดยมีภูเขาเป็นฉากหลังล้อมรอบเมือง
ตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะลานด้านบน พระอุโบสถ สามารถเก็บแสงเช้าและดวงอาทิตย์ขึ้นได้ ในฤดูหนาว จะมี ทะเลหมอก ปกคลุมน่านเป็นบางครั้ง (ธันวาคม – มกราคม) ส่วนทะเลหมอกนั้นหลายคนเข้าใจผิดว่า จะเกิดขึ้นเมื่อ ลมหนาวพัดมาอย่างรุนแรง หมอกรอบเมืองน่านส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงลมหนาว เพราะเมื่อลมหนาวพัดมาที่นันดาในช่วงแรก ลมจะพัดแรง จนหมอกปลิวหายไปหมด ดังนั้นถ้าใครอยากจะมาเก็บทะเลหมอกที่นี่ก็ให้มาตอนที่ลมหนาวเริ่มอ่อนลง รับรองว่าหมอกจะเยอะ แต่ถ้ามาช่วงที่ทะเลหมอกไม่หนาก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะอย่างน้อยก็มีหมอก ปกคลุมด้วยเชิงเขา ไม่มีเลย (ในฤดูฝนจะมีหมอกบางบริเวณภูเขาในตอนเช้า)
การถ่ายแสงยามเย็นที่พระธาตุเขาน้อยในตอนเย็นอาจไม่ได้ผลเช่นกัน เพราะพระอาทิตย์จะตกหลังวัดหรือที่จอดรถ มุมนี้ ต้นไม้เยอะ บังวิว แต่ถ้ามาที่นี่แนะนำให้มาฝั่งน่านเพื่อชมแสงยามเย็นครับ และรอเวลากลางคืนเพื่อเก็บไฟกลางคืน
แนะนำให้ไปช่วงบ่ายๆ ครับ ถ้าอยากได้ขอบฟ้าฝั่งน่านแบบไม่สะท้อนแสงตอนกลางวัน ตอนเย็นจะเก็บรายละเอียด (detail) ของเมืองน่านได้ทั้งหมด ถ้ามาถึงก่อนเที่ยงฝั่งน่านจะย้อนแสง ฉันแนะนำว่าถ้าคุณมาก่อนเที่ยงควรมาตอนเช้าจะดีกว่า เพราะประกอบกับมีแสงสีทองจับหมอกบางๆ